โดนดอกเบี้ยโหดควรทำอย่างไร
1. ตรวจสอบดูก่อนว่าคุณถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินร้อยละ 15 หรือไม่
วิธีคิดง่าย ๆ ตัวอย่าง เช่น คุณไปกู้สินเชื่อเงินสดจากบริษัทธุรกิจสินเชื่อแห่งหนึ่ง โดยมีการเก็บดอกเบี้ยในอัตรา 0.35% ต่อเดือน บวกกับอัตราค่าธรรมเนียมอีก 2.5% ต่อเดือน
ให้คุณเอาทั้ง 2 อัตรานี้มาบวกรวมกันก็จะได้เป็น 2.85% ต่อเดือน ขั้นต่อมาให้คุณเอา 12 (เดือน) คูณเข้าไปคุณจะได้อัตราดอกเบี้ยต่อปีออกมา ในตัวอย่างนี้คุณถูกเรียกเก็บดอกเบี้ย 2.85 X 12 = 34.20% ต่อปี ซึ่งเกินกฎหมายกำหนดที่ 15% ต่อปี 2.ในกรณีที่ผ่อนจ่ายเงินค่างวดจนท่วมเงินต้นที่คุณได้รับจริงในวันทำสัญญากู้เงิน
2.1 ให้คุณหยุดชำระหนี้ที่เหลือทั้งหมด
2.2 ให้ทำหนังสือแจ้งบริษัท ฯ บอกเลิกสัญญา เพราะบริษัทคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด (ตามแบบฟอร์มในหน้า
..)
ตัวอย่าง
สัญญากู้ 20,000 บาท รับเงินจริง 19,000 บาท ผ่อนงวดละ 1,000 บาท ผ่อนชำระมาแล้ว 21 งวด เป็นเงิน 21,000 บาท แม้ในเอกสารของบริษัทจะระบุว่า ท่านยังเป็นหนี้อยู่ 14,000 บาท เพราะ ถูกหักเป็นดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินที่สูงมาก ตามกฎหมาย ถือว่า เป็นหนี้กันเท่าที่รับเงินจริง คือ 19,000 บาท ส่วนดอกเบี้ยที่เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นโมฆะ เงินที่ส่งไปจึงถือเป็นการชำระต้นเงินทั้งหมด3.ในกรณีที่ผ่อนจ่ายเงินหลายงวด แต่ยังไม่ครบเงินต้นที่รับมาจริง
3.1 ให้ชำระไปจนครบเงินต้น
3.2 ทำหนังสือแจ้งบริษัท ฯ บอกเลิกสัญญา เพราะบริษัทคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด (ตามแบบฟอร์มในหน้า
..)
ตัวอย่าง
สัญญากู้ 20,000 บาท รับเงินจริง 19,000 บาท ผ่อนงวดละ 1,000 บาท ผ่อนชำระมาแล้ว 15 งวด เป็นเงิน 15,000 บาท แม้ในเอกสารของบริษัทจะระบุว่า ท่านยังเป็นหนี้อยู่ 17,000 บาท แต่ตามกฎหมายถือว่าเป็นหนี้ 19,000 บาท ท่านผ่อนชำระไปแล้ว 15 งวด เป็นเงิน 15,000 บาท ซึ่งดอกเบี้ยที่เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นโมฆะ ดังนั้น เงินที่ส่งไปจึงถือเป็นการชำระต้นเงินทั้งหมด จึงเหลือหนี้ที่ต้องชำระอีก 19,000 -15,000 เท่ากับ 4,000 บาท ผ่อนชำระต่อไปอีก 4 งวดแล้วให้หยุดชำระพร้อมทำจดหมายแจ้ง4.การแจ้งความดำเนินคดี
คุณสามารถแจ้งความดำเนินคดีอาญา บริษัทธุรกิจสินเชื่อต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในความผิดฐาน เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดได้
เพื่อความสะดวก ท่านสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ที่ กองปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ถ.พหลโยธิน ติดกับแดนเนรมิต) เนื่องจากมีสำนวนแจ้งความของผู้เสียหายอื่นอยู่แล้ว 5. เตรียมตัวรับกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น
ในปัจจุบันมีข้อมูลที่บ่งชี้ได้มากว่า ทางบริษัทธุรกิจสินเชื่อจะใช้วิธีการตามทวงหนี้มากกว่าการฟ้องศาล เพราะศาลอาจยึดตามแนวคำพิพากษาที่ชี้ว่าดอกเบี้ยรวมกับค่าธรรมเนียมแล้วเกินกฎหมายหมายกำหนดที่ร้อยละ 15 ต่อปีเป็นโมฆะ ลูกหนี้ไม่ต้องชำระ เมื่อคุณได้ทำตามข้อ 1-4 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากมีการทวงหนี้คุณไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น รอจนกว่าเจ้าหนี้เขาจะตัดสินใจฟ้องคุณ หากเจ้าหนี้ไม่ฟ้องศาล แต่มีการทวงหนี้และมีการละเมิดสิทธิของคุณอย่างใดอย่างหนึ่ง คุณสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ หากมีการฟ้องศาลและมีหมายศาลมาถึงก็ไม่ต้องหลบหนีนำเอกสารที่คุณได้ทำไปถึงบริษัทนำไปชี้แจงต่อศาลเพื่อยืนยันเจตนาบริสุทธิ์และขอรับการพิจารณาในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม (อ่านรายละเอียดได้จากเรื่อง ยุทธการปลดหนี้ จ่ายคืนแบบเป็นธรรม หน้า
)
แบบฟอร์มจดหมายบอกเลิกสัญญา
แจ้งเมื่อเมื่อท่านได้ชำระเงินต้นครบแล้ว
ที่อยู่
..
วันที่
.
เรื่อง แจ้งชำระหนี้ และยกเลิกสัญญาเรียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท
สืบเนื่องจากที่ข้าพเจ้า
ได้ทำสัญญาสินเชื่อกู้เงินสดเลขที่
เพื่อกู้เงินจำนวน
..บาท ในวันที่
..ซึ่งข้าพเจ้าได้รับเงินกู้สุทธิจำนวน
บาท ปัจจุบันพบว่า ท่านกระทำผิดกฎหมาย คือ คิดดอกเบี้ยในอัตราที่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมายอาญา
ข้าพเจ้าตรวจสอบข้อมูลพบว่า ข้าพเจ้าชำระหนี้เงินกู้รวมแล้วทั้งสิ้นจำนวน
..บาท ณ วันที่
. ข้าพเจ้าขอแจ้งมายังท่านว่า ข้าพเจ้าได้ชำระเงินกู้ตามสัญญาเสร็จสิ้น และถือว่าหนังสือฉบับนี้เป็นหนังสือบอกเลิกสัญญากู้เงินกับท่าน
ขอแสดงความนับถือ
ลงชื่อ
........................... |
หมายเหตุ ในการส่งหนังสือนี้ ควรส่งเป็นไปรษณีย์ลงทะเบียนแบบตอบรับ(มีไปรษณียบัตรสีเหลืองแนบให้ผู้รับเซ็นรับเอกสาร) เพื่อให้แน่ใจว่าหนังสือจะถึงมือผู้รับ และจะได้มีหลักฐานยืนยันว่าคู่กรณีได้รับหนังสือบอกเลิกสัญญาแล้ว และควรทำสำเนาเก็บไว้ 1 ชุด เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินการต่อไป